ตำนานสัตว์ทางตะวันตก

ทำไมช้างจึงมีงวงยาว

FableSmaller-601W354H.jpg (601×354)

            พลาหนึ่ง ซึ่งเนิ่นนานมาแล้วนะคุณหนูที่รัก สมัยนั้นช้างยังไม่มีงวง มีเพียงจมูกโตๆสีดำใหญ่ขนาดรองเท้าบูต ซึ่งสะบัดไปมาได้ แต่ใช้หยิบจับสิ่งของต่างๆไม่ได้ มีช้างตัวหนึ่งเป็นลูกช้างเกิดใหม่ มันอยากรู้อยากเห็นไม่รู้จักพอใจ หมายความว่ามันชอบถามเรื่องโน้นเรื่องนี้ไปเรื่อยๆจนความอยากรู้อยากเห็นไม่รู้จักพอใจของมันกระจายหายไปทั่วทวีปแอฟริกาซึ่งเป็นที่อยู่ของมัน มันถามน้าตัวสูงที่ชื่อนกกระจอกเทศว่าทำไมขนหางของน้าจึงงอกแบบนั้น น้านกกระจอกเทศตัวสูงจึงฟาดก้นมันด้วยกรงเล็บแข็งๆ มันถามลุงตัวยาวที่ชื่อยีราฟว่าทำไมหนังของลุงจึงเป็นจุดๆ ลุงยีราฟตัวยาวจึงฟาดก้นมันด้วยกีบเท้าแข็งๆ แต่มันก็ยังคงมีความอยากรู้อยากเห็นไม่รู้จักพอใจอยู่นั่นเอง มันถามน้าตัวหนาที่ชื่อฮิปโปโปเตมัสว่าทำไมน้าจึงตาแดง น้าฮิปโปโปเตมัสตัวหนาจึงฟาดก้นมันด้วยกีบเท้าหนาๆ มันถามลุงขนยาวที่ชื่อลิงบาบูนว่าทำไมผลแตงจึงมีรสชาติอย่างนั้น ลุงบาบูนขนยาวจึงฟาดก้นมันด้วยฝ่ามือที่มีขนยาวๆ แต่มันก็ยังคงมีความอยากรู้อยากเห็นไม่รู้จักพอใจอยู่นั่นเอง มันถามเกี่ยวกับทุกอย่างที่ได้เห็น ได้ยิน รู้สึก ได้กลิ่น หรือสัมผัส แล้วลุงหรือน้าของมันทั้งหมดต่างก็ฟาดก้นมัน แต่มันก็ยังคงมีความอยากรู้อยากเห็นไม่รู้จักพอใจอยู่นั่นเอง
ในเช้าวันหนึ่งที่อากาศแจ่มใส ลูกช้างผู้ไม่รู้จักพอใจตัวนี้ก็มีคำถามใหม่ที่ไม่เคยถามมาก่อน มันถามว่า “จระเข้กินอะไรเป็นอาหารเย็น” ญาติทุกตัวของมันจึงร้องเสียงดังน่ากลัวว่า “เงียบเถอะน่า” แล้วก็รุมฟาดก้นมันทันทีที่ไม่ยอมหยุดเป็นเวลานาน
ต่อมา เมื่อพวกญาติหยุดฟาดก้นมันแล้ว ลูกช้างก็ไปหานกโกโลโกโลที่เกาะอยู่กลางพุ่มไม้ที่มีหนามหนาชื่อว่าต้นรอประเดี๋ยว แล้วพูดว่า “พ่อฟาดก้นผม แม่ก็ฟาดก้นผม น้าและลุงทุกตัวก็ฟาดก้นผมเพราะผมอยากรู้อยากเห็นไม่รู้จักพอใจ แต่ผมก็ยังอยากรู้อยู่ดีแหละว่าจระเข้กินอะไรเป็นอาหารเย็น”
นกโกโลโกโลตอบด้วยน้ำเสียงเศร้าๆว่า “เจ้าจงไปริมฝั่งแม่น้ำลิมโปโปอันกว้างใหญ่ที่มีน้ำขุ่นข้นสีเทาปนเขียว มีต้นไม้ที่เอาใบมาทำยาแก้ไข้ขึ้นอยู่เต็มไปหมด แล้วหาคำตอบเอาที่นั่นก็แล้วกัน”
เช้าวันรุ่งขึ้น ลูกช้างผู้ไม่รู้จักพอใจก็หากล้วยชนิดลูกสั้นสีแดงหลายร้อยลูก อ้อยชนิดสีม่วงท่อนยาวหลายร้อยท่อน และผลแตงชนิดเนื้อกรอบสีเขียวสิบเจ็ดลูก แล้วก็พูดกับญาติๆผู้น่ารักทุกตัวว่า “ลาก่อนครับ ผมจะไปที่แม่น้ำลิมโปโปอันกว้างใหญ่ที่มีน้ำขุ่นข้นสีเทาปนเขียว มีต้นไม้ที่เอาใบมาทำยาแก้ไข้ขึ้นอยู่เต็มไปหมด เพื่อหาคำคอบว่าจระเข้กินอะไรเป็นอาหารเย็น” ญาติทุกตัวจึงฟากันฟาดก้นมันเพื่อขอให้โชคดี ถึงแม้มันจะขอร้องอย่างสุภาพให้หยุดฟาดก็ตาม
จากนั้นลูกช้างก็ออกเดินทางด้วยความรู้สึกตื่นเต้น แต่ไม่แปลกประหลาดใจ พลางกินผลแตงและโยนเปลือกทิ้งไว้ เพราะเก็บขึ้นมาไม่ได้
มันเดินทางจากเกรแฮมทาวน์ไปยังคิมเบอร์ลีย์ จากคิมเบอร์ลีย์ไปยังคามาคันทรี จากคามาคันทรี มันไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ พลางกินผลแตงอยู่ตลอดเวลา ในที่สุดก็มาถึงริมฝั่งแม่น้ำลิมโปโปอันกว้างใหญ่ที่มีน้ำขุ่นข้นสีเทาปนเขียว มีต้นไม้ที่เอาใบมาทำยาแก้ไข้ขึ้นอยู่เต็มไปหมด ตรงกับที่นกโกโลโกโล บอกไว้
คุณหนูที่รักต้องเข้าใจไว้ด้วยนะ ว่าจนถึงสัปดาห์นั้น วันนั้น ชั่วโมงนั้น และนาทีนั้น ลูกช้างผู้ไม่รู้จักพอใจยังไม่เคยเห็นจระเข้มาก่อนเลย และไม่รู้ว่าหน้าตามันเป็นอย่างไร ได้แต่อยากรู้อยากเห็นไม่รู้จักพอใจ
สิ่งแรกที่มันพบเข้าคืองูหลามภูเขาสองสีที่ขดตัวอยู่บนโขดหิน
“โทษทีครับ” ลูกช้างพูดอย่างสุภาพ “ท่านเคยเห็นสิ่งที่เรียกว่าจระเข้แถวๆนี้บางไหมครับ”
“ฉันเคยเห็นจระเข้รึเปล่าหรอ” งูหลามภูเขาสองสีตอบด้วยน้ำเสียงดูถูก “เจ้าจะถามอะไรฉันต่อ”
“โทษทีครับ” ลูกช้างพูด “ท่านช่วยบอกได้ไหมครับว่าจระเข้กินอะไรเป็นอาหารเย็น”
ได้ฟังดังนั้น งูหลามภูเขาสองสีก็คลายตัวออกจากโขดหินอย่างรวดเร็ว แล้วสะบัดหางที่เต็มไปด้วยเกล็ดฟาดก้นลูกช้าง
“แปลกจริงนะ” ลูกช้างพูด “ทั้งพ่อ แม่ ลุง น้า แถมน้าฮิปโปโปเตมัส และลุงบาบูนพากันรุมฟาดก้นผมเพราะผมอยากรู้อยากเห็นไม่รู้จักพอใจ ผมคิดว่าที่ท่านฟาดก้นผมนี่ก็แบบเดียวกันเลย”
ดังนั้นลูกช้างจึงกล่าวลางูหลามภูเขาสองสีอย่างสุภาพ ทั้งยังช่วยม้วนตัวงูกลับขึ้นไปไว้บนโขดหินตามเดิม แล้วเดินทางไป รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย แต่ไม่แปลกประหลาดใจเลย พลางกินผลแตง และโยนเปลือกทิ้งไว้เกลื่อน เพราะเก็บมันขึ้นมาไม่ได้ จนกระทั่งเดินไปเหยียบสิ่งที่มันคิดว่าเป็นท่อนไม้ริมฝั่งแม่น้ำลิมโปโปอันกว้างใหญ่ที่มีน้ำขุ่นข้นสีเทาปนเขียว มีต้นไม้ที่เอาใบมาทำยาแก้ไข้ขึ้นอยู่เต็มไปหมด
แต่ที่จริงแล้วมันคือจระเข้ครับ คุณหนูที่รัก แล้วจระเข้ก็ขยิบตาข้างหนึ่ง-แบบนี้
“โทษทีครับ” ลูกช้างพูดอย่างสุภาพที่สุด “ท่านบังเอิญเห็นจระเข้อยู่แถวๆนี้บ้างไหมครับ”
จระเข้ขยิบตาอีกข้างหนึ่ง แล้วยกหางครึ่งหนึ่งขึ้นจากโคลน ลูกช้างขยับถอยอย่างสุภาพ เพราะมันไม่อยากถูกฟาดก้นอีก
“เข้ามาใกล้ๆสิ หนูน้อย” จระเข้พูด “เจ้าถามทำไมหรอ”

“โทษทีครับ” ลูกช้างตอบอย่างสุภาพที่สุด “พ่อฟาดก้น แม่ก็ฟาดก้นผม ยังมีน้านกกระจอกเทศตัวสูง กับลุงยีราฟตัวยาว ที่เตะแรงเหลือเกิน แล้วก็น้าฮิปโปโปเตมัสตัวหนา ลุงบาบูนขนยาว แถมงูหลามภูเขาสองสี หางเป็นเกล็ดสะบัดไปสะบัดมา ที่อยู่บนริมฝั่งแม่น้ำนี้ ก็ฟาดก้นแรงกว่าใครๆ ถ้าท่านเป็นแบบเดียวกัน ผมก็ไม่อยากถูกฟาดก้นอีกแล้วละ”
“เข้ามาใกล้ๆสิ หนูน้อย” จระเข้พูด “เพราะฉันนี่แหละจระเข้ละ” แล้วมันก็หลั่งน้ำตาจระเข้เพื่อแสดงว่านี่เป็นความจริง
จากนั้นลูกช้างก็กลั้นลมหายใจ หัวใจเต้นแรง คุกเข้าลงที่ริมแม่น้ำ แล้วพูดว่า “ท่านเป็นผู้ที่ผมมองหามาหลายวันแล้ว ท่านช่วยบอกผมหน่อยเถอะครับว่าท่านกินอะไรเป็นอาหารเย็น”
“เข้ามาใกล้ๆสิ หนูน้อย” จระเข้พูด “ฉันจะกระซิบให้ฟัง”
ลูกช้างจึงก้มหัวลงไปใกล้ๆปากจระเข้ที่มีกลิ่นฉุนและฟันแหลม จระเข้จึงงับจมูกลูกช้าง ซึ่งจนถึงสัปดาห์นั้น วันนั้น ชั่วโมงนั้น และนาทีนั้นยังมีจมูกใหญ่ขนาดเท่ารองเท้าบูต
“ฉันคิดว่า” จระเข้พูด “วันนี้ฉันจะเริ่มกินลูกช้างก่อน”
คุณหนูที่รักครับเมื่อลูกช้างได้ยินดังนั้นก็หวาดหวั่นยิ่งนัก มันพูดเสียงขึ้นจมูกอู้อี้แบบนี้ “ป่อยหมไป หมเจ็บฮะ”
งูหลามภูเขาสองสีเลื้อยลงมาจากฝั่งน้ำ และพูดว่า “นี่เจ้าหนุ่มเพื่อนฉัน ถ้าเจ้าไม่ดึงให้สุดแรงทันที เดี๋ยวนี้เลย ฉันว่าเจ้าตัวที่ใส่เสื้อคลุมหนังลายใหญ่ๆที่เจ้าเพิ่งทำความรู้จักนี่ (มันหมายถึงจระเข้) จะต้องฉุดกระชากเจ้าลงไปในน้ำนิ่งตรงโน้นก่อนที่เจ้าจะทันได้เรียกชื่อแจ็ก รอบินสัน”
นี่เป็นวิธีการพูดที่งูหลามภูเขาสองสีชอบใช้เสมอ
จากนั้น ลูกช้างก็หย่อนก้นลงนั่ง แล้วดึง ดึง แล้วก็ดึง จนจมูกของมันยืดออก ส่วนจระเข้ก็ขยับตัวถอยลงน้ำอย่างงุ่มง่าม หางของมันเหวี่ยงไปมาอย่างแรงจนน้ำขุ่นคลั่ก มันดึง ดึง แล้วก็ดึง
จมูกของลูกช้างยืดออกไปเรื่อยๆ มันเหยียดขาทั้งสี่ข้าง แล้วก็ดึง ดึง ดึง จมูกของมันก็ยังยืดออกไปอื่น ส่วนจระเข้ก็ฟาดหางเหมือนกับใช้ใบพายแจวเรือ แล้มันก็ดึง ดึง ดึง แต่ละครั้งที่ดึงจมูกของลูกช้างก็ยาวขึ้น ยาวขึ้น ซึ่งทำให้มันเจ็บปวดมาก
ลูกช้างรู้สึกว่าขาของมันกำลังลื่นไถลไป มันพูดเสียงขึ้นจมูก ซึ่งตอนนี้ยาวเกือบฟ้าฟุตแล้ว “หมทนไม่ไหวแล้ว”
งูหลามภูเขาสองสีจึงลงมาจากฝั่งใช้ตัวมันรัดขาหลังของลูกช้างเป็นเงื่อนตายสองชั้นแล้วพูดว่า “เจ้านักเดินทางผู้รีบร้อนและขาดประสบการณ์ ต่อไปนี้เรากำลังจะผจญกับความตึงเครียดอย่างสูงสักเล็กน้อย หากเราไม่ทำเช่นนั้น ฉันรู้สึกว่าเจ้าเรือรบที่ขับเคลื่อนได้ด้วยตนเองและมีดาดฟ้าเรือหุ้มเกราะที่เห็นอยู่ข้างหน้านี้” (มันหมายถึงจระเข้นะครับคุณหนูที่รัก) “จะทำลายงานในอนาคตของเจ้านะ
นี่เป็นวิธีการพูดที่งูหลามภูเขาสองสีชอบใช้อยู่เสมอ
ดังนั้นทั้งงูหลาม ลูกช้าง และจระเข้ก็ต่างพากันดึง แต่ลูกช้างกับงูหลามภูเขาสองสีดึงแรงกว่า ในที่สุดจระเข้ก็ยอมปล่อยจมูกลูกช้างทำให้เกิดเสียงดังตูมซึ่งได้ยินไปทั่วคุ้งน้ำลิมโปโป
จากนั้นลูกช้างก็ทิ้งตัวลงนั่งอย่างแรงและฉับพลัน ก่อนอื่นมันยังรู้จักที่จะพูด “ขอบคุณ” งูหลามภูเขาสองสี ถัดจากนั้นมันก็ดูจมูกที่ถูกดึงอย่างน่าสงสาร โดยเอาใบตองเย็นๆหุ้มมันไว้แล้วเอาลงไปแช่ในแม่น้ำลิมโปโปอันกว้างใหญ่ที่มีน้ำขุ่นข้นสีเทาปนเขียว
“เจ้าทำแบบนั้นทำไม” งูหลามภูเขาสองสีถาม
“โทษทีครับ” ลูกช้างตอบ “จมูกผมเสียทรงหมดแล้ว ผมกำลังรอให้มันหดตัวครับ”
“ถ้างั้นเจ้าจะต้องรออีกนานโขทีเดียว” งูหลามภูเขาสองสีพูด “สัตว์โลกบางตัวไม่รู้ว่าอะไรเป็นสิ่งที่ดีสำหรับตัวเอง”
ลูกช้างนั่งอยู่ที่นั่นสามวันเพื่อรอให้จมูกหดตัวลงแต่จมูกก็ไม่สั้นลงไปแม้แต้นิดเดียว มิหนำซ้ำยังทำให้ลูกช้างตาเขอีกด้วย เพราะจระเข้ได้ดึงจมูกของลูกช้างจนกลายเป็นงวงแบบที่ช้างทุกตัวมีกันอยู่ในปัจจุบันนี้

พอสิ้นวันที่สาม มีแมลงตัวหนึ่งบินมากัดที่ไหล่ของลูกช้าง มันจึงยกงวงขึ้นฟาดแมลงจนตายโดยไม่ทันรู้ตัวว่ากำลังทำอะไร
“ประโยชน์ข้อที่หนึ่ง” งูหลามภูเขาสองสีพูด “เจ้าใช้จมูกแฉะๆธรรมดาทำแบบนั้นไม้ได้หรอก เอาละทีนี้ลองกินอะไรบ้างสิ”
ลูกช้างจึงยื่นงวงไปถอนหญ้ามากำใหญ่ ฟาดกับขาหน้าเพื่อทำความสะอาด แล้วเอาใส่ปากโดยไม่ทันคิดว่ากำลังทำอะไร
“ประโยชน์ข้อที่สอง” งูหลามภูเขาสองสีพูด “เจ้าใช้จมูกแฉะๆธรรมดาทำแบบนั้นไม่ได้หรอก เจ้ารู้สึกไหมว่าที่นี่แดดร้อนเหลือเกิน”
“จริงด้วย” ลูกช้างตอบ และยังไม่ทันได้คิดว่ากำลังทำอะไร มันก็ไปตักโคลนจากริมฝั่งแม่น้ำลิมโปโปอันกว้างใหญ่ ที่มีน้ำขุ่นข้นสีเทาปนเขียวเอามาแปะบนหัวตัวเอง ทำเป็นหมวกโคลนเหนอะหนะไหลย้อยหลังใบหู
“ประโยชน์ข้อที่สาม” งูหลามภูเขาสองสีพูด “เจ้าใช้จมูกแฉะๆธรรมดาทำแบบนั้นไม่ได้หรอก ตอนนี้เจ้ารู้สึกยังไงถ้าจะต้องโดนฟาดก้นอีก”
“โทษทีครับ” ลูกช้างตอบ “ผมไม่อยากโดนเลย”
“เจ้าอยากฟาดก้นผู้อื่นบ้างไหม” งูหลามภูเขาสองสีถาม
“ผมอยากฟาดมากเลยครับ” ลูกช้างตอบ
“เอาละ” งูหลามภูเขาสองสีพูด “เจ้าจะได้เห็นว่าจมูกใหญ่ของเจ้าเหมาะจะใช้ฟาดก้นผู้อื่นมาก”

“ขอบคุณครับ” ลูกช้างพูด “ผมจะจำเอาไว้ ตอนนี้ผมคิดว่าผมน่าจะกลับบ้านไปหาญาติๆที่น่ารักแล้วทดลองใช้ดู”
ดังนั้นลูกช้างจึงเดินทางข้ามทวีปแอฟริกากลับบ้านพลางแกว่งงวงเล่นไปมา เมื่อมันอยากกินผลไม้ มันก็ปลิดเอาลงมาจากต้นไม้ แทนที่จะรอให้มันหล่นลงมาอย่างที่เคยทำ เมื่อมันอยากกินหญ้า มันก็ถอนหญ้าขึ้นมาจากพื้น แทนที่จะคุกเข่าอย่างที่เคยทำ เมื่อถูกแมลงกัด มันก็หักกิ่งไม้มาใช้เป็นที่ปัดแมลง มันยังทำหมวกโคลนที่เย็นและเหนอะหนะได้ใหม่ทุกครั้งที่แดดร้อน พอรู้สึกเหงาตอนที่เดินท่องแอฟริกา มันก็ร้องเพลงให้เสียงผ่านงวง ซึ่งทำให้เกิดเสียงดังกว่าวงดนตรีที่ใช้เครื่องเป่าหลายวง
ลูกช้างเดินออกนอกเส้นทางไปเจอนางฮิปโปโปเตมัสตัวหนาเข้าตัวหนึ่ง (ซึ่งไม่ใช่ญาติของลูกช้าง) มันจึงฟาดก้นนางเต็มแรง เพื่อให้แน่ใจว่างวงที่มันได้มาใหม่ใช้ได้จริงตามที่งูหลามภูเขาสองสีเคยบอกไว้ ในเวลาที่เหลือ มันก็คอยเก็ยเปลือกแตงที่มันทิ้งไว้ระหว่างทางไปแม่น้ำลิมโปโป เพราะมันเป็นช้างที่มีระเบียบ
ค่ำวันหนึ่งมันก็กลับมาเจอญาติๆที่น่ารัก มันม้วนงวงแล้วพูดว่า “สวัสดีครับ” พวกญาติๆดีใจที่ได้เจอมัน และพูดทันทีว่า “มานี่ มาให้พวกเราฟาดก้นเพราะความอยากรู้อยากเห็นไม่รู้จักพอใจของเจ้า”
“เชอะ” ลูกช้างพูด “ผมคิดว่าพวกท่านยังไม่รู้อะไรเกี่ยวกับการฟาดก้นเลย แต่ผมรู้ ผมจะทำให้ดู” จากนั้นลูกช้างก็คลายงวงที่ม้วนอยู่ออกมา แล้วฟาดน้องๆที่น่ารักของมันจนหงายท้อง
“เฮ้ย บ้าชะมัด” พวกน้องๆร้องลั่น “พี่ไปฝึกลูกเล่นแบบนี้มาจากไหนกัน แล้วไปทำอะไรกับจมูกมา”
“ฉันได้จมูกใหญ่มาจากจระเข้ ที่ริมฝั่งแม่น้ำลิมโปโปอันกว้างใหญ่ที่มีน้ำขุ่นข้นสีเทาปนเขียว” ลูกช้างตอบ “ฉันถามมันว่ามันกินอะไรเป็นอาหารเย็น มันจึงให้ไอนี่มา”
“มันดูน่าเกลียดมาก” ลุงบาบูนขนยาวพูด
“ใช่ครับ” ลูกช้างตอบ “แต่มันมีประโยชน์มากนะครับ” ว่าแล้วมันก็จับขาที่มีขนรุงรังของลุงบาบูนขนยาวแล้วยกตัวลุงขึ้นไปแหย่รังแตน
จากนั้นลูกช้างเกเรก็ฟาดก้นญาติๆที่น่ารักทุกตัวเป็นเวลานาน จนญาติๆตื่นตกใจและมึนงง มันถอนขนหางของน้านกกระจากเทศตัวสูง มันจับขาหลังของลุงยีราฟตัวยาว แล้วลากไปในพุ่มไม้หนาม มันตะโกนใส่น้าฮิปโปโปเตมัสตัวหนา แล้วพ่นฟองน้ำเข้าไปในหูตอนที่น้ากำลังหลับอยู่ในน้ำหลังอาหาร แต่มันไม่ยอมให้ใครแตะต้องตัวนกโกโลโกโลเลย
ในที่สุดเหตุการณ์ก็น่าตื่นเต้นมากขึ้นจนพวกญาติๆที่น่ารักต่างทยอยกันเผ่นหนีไปยังริมฝั่งแม่น้ำลิมโปโปอันกว้างใหญ่ที่มีน้ำขุ่นข้นสีเทาปนเขียว มีต้นไม้ที่เอาใบมาทำยาแก้ไข้ขึ้นอยู่เต็มไปหมด เพื่อขอยืมจมูกใหม่จากจระเข้ เมื่อกลับมาอีกครั้งก็ไม่มีใครฟาดก้นใครอีกต่อไป คุณหนูที่รัก ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา ช้างทุกตัวที่หนูจะได้เห็นรวมทั้งตัวที่จะไม่ได้เห็น ก็มีงวงเหมือนกันเปี๊ยบกับงวงของลูกช้างผู้ไม่รู้จักพอใจตัวนั้น

ใส่ความเห็น